spam mail

By | 16/03/2016

“จดหมายอิเล็กทรอนิกส์” หรือ “อีเมล” เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในระดับองค์กรเพื่อติดต่อทางธุรกิจ หรือการติดต่อสื่อสารส่วนตัว ซึ่งอีเมลแอดเดรสของเราก็เปรียบเสมือนการที่อยู่ทางไปรษณีย์นั่นเองแต่จะแตกต่างกันก็คืออีเมลแอดเดรสจะถูกส่งไปกับอีเมลที่เรารับ-ส่ง ก็หมายถึงทุกครั้งที่เรารับ-ส่ง หรือส่งต่ออีเมล จะทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มผู้รับหรือผู้ที่รับอีเมลต่อจะรู้อีเมลแอดเดรสของเราอย่างง่ายดาย หมายถึงโอกาสที่กลุ่มผู้สร้าง Spam จะสามารถรู้อีเมลแอดเดรสของเราและส่ง Spam อีเมลมาให้เราได้อย่างไม่ยากเลย

ประเภทของจดหมายอิเลคทรอนิกส์ก่อกวน

Spam mail คือ จดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่ผู้ส่งส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตัวเองมี
Chain mail คือ เป็นจดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่มีข้อความเหมือนจดหมายลูกโซ่ที่เราเคยได้รับโดยทั่วไป เนื้อหาก็จะเป็นเรื่องคำเตือนเกี่ยวกับไวรัส หรือเรื่องอื่น ๆ แต่ที่สำคัญคือ บอกว่าให้ส่งข้อความนี้ให้กับคนที่รู้จัก
Bomb mail คือ การก่อกวนผู้รับจดหมายอิเลคทรอ-นิกส์ หรือระบบจดหมายอิเลคทรอนิกส์ของเครือข่าย โดยส่งจดหมายอิเลคทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก ๆ ไปยังผู้รับจดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือระบบจดหมายอิเลคทรอนิกส์
Mail Virus เป็นจดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่มี Attached File เป็นไวรัสที่ติดมากับจดหมายอิเลคทรอนิกส์ด้วย ซึ่งไวรัสนี้สามารถ execute ได้เมื่อผู้อ่านคลิกเพื่อเปิดไฟล์นั้น
Hoax mail เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อกวนที่มีผลต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก โดยไวรัสหลอกลวงพวกนี้จะมาในรูปของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การส่งข้อความต่อ ๆ กันไปผ่านทางโปรแกรมรับส่งข้อความ หรือห้องสนทนาต่าง ๆ ซึ่งสามารถสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้มากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นกับเทคนิค และการใช้จิตวิทยาของผู้สร้างข่าวขึ้นมา
Mail Spam / Bomb คืออะไร
Spam mail คืออีเมลที่เราไม่ต้องการ เป็นประเภทหนึ่งของ Junk mail หลายคนสับสนคำว่า Spam mail กับคำว่า Bomb mail จุดประสงค์ของ Spam mail นั้น ผู้ส่งส่วนใหญ่ต้องการโฆษณาบริการต่าง ๆ ที่ตัวเองมี ส่วนจุดประสงค์หลักของ Bomb mail คือการก่อกวนผู้รับหรือระบบเมล์ของเครื่องข่ายนั้น ๆ โดยทั่วไป Spam Mail เป็นการส่งอีเมลแต่ละฉบับไปหาคนจำนวนมาก ส่วน Bomb mail เป็นการเมล์จำนวนมากไปหาคน ๆ หนึ่งหรือระบบเมล์ใดระบบเมล์หนึ่ง

คำว่า SPAM จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นคำย่อมาจากคำใด และก็ไม่เคยมีความหมายในภาษาอังกฤษมาก่อน เพียงแต่เป็นคำแสลงที่ใช้ในการเรียกอีเมลที่ส่งมาเพือมีจุดประสงค์ในการโฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์, บริจาค, ขอความช่วยเหลือ หรืออื่น ๆ ซึ่งสร้างความรำคาญในกับผู้ใช้อีเมลหากได้รับอีเมลประเภทนี้มาเกินไป

Spam เกิดขึ้นได้อย่างไร
ก็อย่างที่เรารู้กันว่าการส่งอีเมลเป็นการสื่อสารที่เสียค่าใช่จ่ายน้อยและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้จำนวนมาก ผู้ที่สร้าง SPAM ก็คือพวกที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดเพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์ ทางธุรกิจของตน จึงใช้วิธีการให้ได้มาซึ่งอีเมลแอดเดรสของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจเป็นได้จากหลายกรณี เช่น การที่เราส่งต่ออีเมลต่าง ๆ, การใช้อีเมลแอดเดรสในการสมัครสมาชิกของกลุ่มข่าว (newsgroup) หรือสมัครสมาชิกของเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นต้น

วิธีการป้องกัน
จะเห็นได้ว่า SPAM เกิดจากการที่ผู้สร้าง SPAM รู้จักอีเมลแอดเดรสของเรา ดังนั้นการป้องกันที่ต้นเหตุที่ดีที่สุด คือการป้องกันไม่ให้คนอื่นที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้องในติดต่อรู้จักอีเมลแอดเดรสของเรา แต่ถ้าหากเราไม่สามารถป้องกันที่ต้นเหตุได้ตั้งแต่แรก และเคยได้รับ SPAM อีเมลมาแล้ว เราก็ต้องหันมาป้องกันที่ปลายเหตุ โดยใช้ความสามารถของอีเมลไคลเอ็นท์ เช่น Microsoft Outlook ในการกรอง SPAM อีเมล หรือ/และร่วมกับความสามารถของอีเมลเซิร์ฟเวอร์ เช่น Microsoft Exchange หรือ ซอฟต์แวร์ Anti-spam เพิ่มเติมตามความเหมาะสม

โดยทั่วไปการป้องกัน SPAM สามารถทำได้ดังนี้

ใช้ Outlook ในการกรองอีเมล SPAM
ถ้าคุณใช้ Outlook 2003 ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ จะเห็นได้ว่ามีโฟล์เดอร์ที่เรียกว่า Junk E-Mail. ซึ่งในโฟล์เดอร์นี้จะมีกลไกในการกรองอีเมลที่ไม่ต้องการออกไปจาก Inbox ซึ่งตัวกรองจะสามารถกำหนดได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งเวลาที่อีเมลถูกส่งมา (ซึ่งปกติอีเมล SPAM จากแหล่งเดิม ๆ มักถูกตั้งสริปต์ให้ส่งมาเวลาเดียวกันในแต่ละวัน)

หลีกเลี่ยงการตอบอีเมล SPAM
เพราะการตอบอีเมล SPAM ทำให้พวกผู้สร้าง SPAM รู้ว่าคุณยังใช้อีเมลแอดเดรสและเมล์บ็อกซ์นี้อยู่ ทำให้ผู้สร้าง SPAM นั้นส่งอีเมล SPAM มาให้อีก ทางที่ดีที่สุดคือลบอีเมล SPAM ทิ้งเมื่อคุณได้รับมัน

ไม่ควรใช้อีเมลแอดเดรสที่ใช้ในองค์กรในการลงทะเบียนใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต
ในบางครั้งคุณอาจต้องการลงทะเบียน mailing list, news group, การดาวน์โหลด freeware หรือ shareware, การสมัครสมาชิกใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต หรือการสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต คุณไม่ควรจะใช้อีเมลแอดเดรสที่ใช้ในองค์กรเพื่อการลงทะเบียนเหล่านี้ เพราะจะทำให้อีเมลแอดเดรสของคุณหลุดรอดไปยังพวกสร้างอีเมล SPAM ได้ ข้อแนะนำคือ ให้สร้างอีเมลแอดเดรสในฟรีเมล์เช่น hotmail ไว้อีกหนึ่งอีเมลแอดเดรส เพื่อใช้ในการลงทะเบียนหรือซื้อของทางอินเทอร์เน็ตแทนการใช้อีเมลแอดเดรสหลักที่ใช้ในองค์กร และควรจะใส่จุดไว้ข้างหน้าและข้างหลังอีเมลเพื่อเพิ่มความยากลำบากในการใช้โปรแกรม Spam ยิ่งขึ้น เช่น .yourname@domain.com.

หากคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
ไม่ควรใส่อีเมลแอดเดรสหลักที่คุณใช้ในองค์กรลงบนเว็บไซต์

หากต้องใช้อีเมลแอดเดรสในการลงทะเบียนบนเว็บไซต์ใด ๆ ให้อ่าน Privacy policy ให้ละเอียด
สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการให้คุณใช้อีเมลแอดเดรสในการลงทะเบียน มักมี privacy policy ให้คุณอ่านและเลือกตอบ เช่น คุณต้องการเปิดเผยข้อมูลและอีเมลแอดเดรสของคุณแก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้ของเว็บไซต์หรือไม่?, อีเมลของคุณต้องการให้เก็บเป็นความลับหรือไม่? เป็นต้น ดังนั้นคุณจะต้องอ่านให้ละเอียดและเลือกใช้ให้เหมาะสม

ลบข้อมูลของคุณจาก Profile ต่าง ๆ ที่อาจค้นเจอได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ข้อนี้อาจทำได้ยากในทางปฎิบัติ แต่จากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการของผู้เขียนเอกสาร Crabby’s top 10 spam-fighting tips พบว่าเมื่อทำการลบ profile ที่เราไปลงทะเบียนไว้หรือแสดงอีเมลแอดเดรสของเราเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น Internet directory, กลุ่มข่าว หรือ discussion board พบว่าจำนวนอีเมล SPAM ที่ได้รับลดลง

ไม่ควรส่งต่ออีเมลประเภท Chain e-mail หรือ Forward mail
ปัจจุบันมี Chain e-mail หลายรูปแบบ เช่น การบริจาคเงิน, บริจาคเลือด, การได้รับรางวัล ต่าง ๆ หรือ Forward e-mail เช่น รูปภาพ, ข้อความ, ข่าว เป็นต้น หากต้องการส่งต่ออีเมลประเภทนี้ ควรลบรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมลก่อนหน้านี้ที่จะปรากฎอยู่เมื่อคุณกดปุ่ม Forward ทั้งนี้เป็นการช่วยป้องกันผู้ที่อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมลก่อนหน้านี้ แต่อย่าลืมว่าผู้ที่ได้รับอีเมลต่อจากคุณอาจจะส่งต่อไปให้เพือน ๆ ของเขา ซึ่งคุณก็มีโอกาสเสี่ยงในการที่ผู้สร้างอีเมล SPAM จะรู้อีเมลแอดเดรสของคุณอยู่ดี

การแก้ปัญหาจดหมาย Spam
คุณสมบัติหลักที่ Anti spam ควรจะต้องมีคือประสิทธิ-ภาพและความถูกต้อง ในการตรวจจับ ซึ่งก็มีหลายวิธีในการคิดค่า แต่จะมีอยู่วิธีหนึ่งทีมีประสิทธิภาพ ก็คือการวัดจากค่า Spam ที่สามารถป้องกันไม่ให้เข้ามาในระบบได้ คำนวณได้เป็นร้อยละของจดหมายที่ป้องกันได้ และตรวจจับถูกต้องว่าคือ spam สามารถคำนวณได้โดย

[จำนวนของจดหมายสแปมที่จับได้ / (จำนวนของจดหมาย สแปมที่จับได้+จำนวนของจดหมายสแปมที่จับไม่ได้)] X 100%

ระบบ Anti spam ที่ดีควรมีค่าการหลุดลอดของจดหมาย SPAM มากกว่า 95%

ส่วนค่าของความถูกต้องคือค่าร้อยละของจดหมาย Spam ที่จับได้ถูกต้อง สามารถคำนวณได้โดย

[(จำนวนของจดหมายสแปมที่จับได้ – จำนวนจดหมายที่เป็น สแปม) / จำนวนของจดหมายทั้งหมดที่จับได้] X 100%

ระบบ Anti spam ที่ดีควรมีค่าความถูกต้องไม่น้อยกว่า 99.9999% หรือผิดพลาดจากการตรวจสอบจดหมายผิดว่าเป็น SPAM 1 ฉบับใน 1 ล้านฉบับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *